
เมื่อพูดถึงการเลือกซื้อหลังคาเหล็ก หรือ แผ่นเมทัลชีท เจ้าของบ้าน หรือนักธุรกิจหลายคนอาจเลือกวัสดุจากความแข็งแรงทนทาน ความสวยงามของลอน และขนาดความหนาเป็นส่วนใหญ่กันใช่ไหมละครับ เพื่อนำไปใช้งานกับอาคารประเภทต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องตามวัตถุประสงค์ และมีประสิทธิภาพ
ซึ่งรู้หรือไม่ว่าสัญลักษณ์ "มาตรฐานสากล" ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผู้ซื้อทุกคนไม่ควรมองข้าม บทความนี้ แสงไทยเมทัลชีท จึงได้รวบรวมข้อมูลดี ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ เช็กเลย! มาตรฐานสากล ของอุตสาหกรรมหลังคาเหล็ก มีอะไรบ้าง เพื่อเป็นความรู้ในการตัดสินใจเลือกซื้อ หรือการนำไปใช้งานให้เกิดความคุ้มค่าในระยะยาว มาฝากกัน
สัญลักษณ์มาตรฐานสากล หลังคาเหล็ก คืออะไร ?

เป็นมาตรฐานการรับรองคุณภาพ และความปลอดภัยของหลังคาเหล็ก ที่มีการทดสอบคุณสมบัติ ตามข้อกำหนดที่เข้มงวดของประเทศต่าง ๆ เช่น ความแข็งแรง, ความทนทานต่อการกัดกร่อน และคุณสมบัติทางกายภาพ เป็นต้น เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการสร้างอาคารรูปแบบต่าง ๆ ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย หรือมีความเหมาะสมกับสภาพอากาศของพื้นที่นั้น ๆ
โดยในประเทศไทย มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับหลังคาเหล็กจะเป็น มอก. 1128-2562 ซึ่งเป็น 1 ในสัญลักษณ์ของการรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยมีการกำหนดข้อกำหนดเฉพาะเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัยได้อย่างมั่นใจ
ทำไม การซื้อหลังคาเหล็ก จำเป็นต้องเช็กสัญลักษณ์มาตรฐานสากล ?

เพราะการเลือกซื้อหลังคาเหล็กที่มีสัญลักษณ์ตามมาตรฐานสากล ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ซื้อรู้สึกมั่นใจในคุณภาพของวัสดุ แต่ยังส่งผลดีในด้านอื่น ๆ ที่ผู้ซื้อควรรู้ ดังนี้
คุณภาพของสินค้า มาตรฐานสากลช่วยรับประกันว่าหลังคาเหล็กมีคุณภาพดี ผ่านการทดสอบและควบคุมการผลิต ทำให้มีความแข็งแรงและทนทาน
ความปลอดภัยต่อการใช้งาน ที่แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์จากแบรนด์นี้ ได้รับการตรวจสอบและมีการรับรองความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
มีอายุการใช้งานยาวนาน เพราะหลังคาที่ได้รับมาตรฐาน จะมีคุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อนกว่าเหล็กนำเข้า จึงทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัยได้มากกว่า
6 สัญลักษณ์มาตรฐานสากล มีอะไรบ้าง ?
1. มาตรฐานไทย หรือ มอก. (TIS)

มาตรฐานไทย หรือ มอก. (Thai Industrial Standard) คือ มาตรฐานที่จัดทำขึ้นโดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ทำตามเงื่อนไขการผลิตสินค้า ให้เป็นไปตาม ข้อกำหนดด้านคุณภาพที่เหมาะสมกับการใช้งานที่ตั้งใจไว้ ไม่ว่าจะเป็น ความแข็งแรง ความทนทานของวัสดุต่อสภาพอากาศ ความสวยงาม และ ขนาดความหนาที่เหมาะสม เป็นต้น
ซึ่งผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่แสดงสัญลักษณ์ หรือมีเครื่องหมาย มอก. จะสามารถบ่งชี้ได้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นได้รับการตรวจสอบและเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดในด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัย
2. มาตรฐานสากลอเมริกา (ASTM)

ASTM หรือ American Society for Testing and Material คือ สมาคมการทดสอบและวัสดุอเมริกัน ที่มีระบบมาตรฐานการทดสอบ และการกำหนดคุณสมบัติของเหล็กให้มีความปลอดภัย และใช้งานได้จริง เช่น ความแข็งแรงของวัสดุ และ ความทนทานต่อการกัดกร่อน ฯลฯ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ ASTM และตามด้วยชุดอักษรอีก 3 หลัก
จะสามารถบ่งบอกได้ว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนั้น ผ่านการทดสอบจากสมาคมการทดสอบและวัสดุอเมริกัน ซึ่งถือเป็นมาตรฐานที่นิยมใช้ และมีการยอมรับกันทั่วโลก
3. มาตรฐานสากลญี่ปุ่น (JIS)

มาตรฐานสากลญี่ปุ่น หรือ Japanese Industrial Standard: JIS คือข้อกำหนดมาตรฐานที่ใช้ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจัดทำขึ้นโดยคณะกรรมการมาตรฐานอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (JISC) ที่มีข้อกำหนดในการผลิตครอบคลุมหลากหลายสาขาอุตสาหกรรมรวมถึงเทคโนโลยี
โดยมาตรฐานของอุตสาหกรรมเหล็ก JIS นั้น จะมีการจัดประเภทเหล็กตามการใช้งาน โดยมีการกำหนดค่าที่ขึ้นต้นด้วย "JIS" ตามด้วยตัวอักษรที่ระบุกลุ่มผลิตภัณฑ์ ซึ่งสามารถบ่งบอกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง
4. มาตรฐานสากลออสเตรเลีย (AS)

AS: Australia Standard อีกหนึ่งมาตรฐานสากลจากออสเตรเลีย ที่เป็นสัญลักษณ์ในการรองรับมาตรฐานคุณภาพสินค้า และความปลอดภัย โดยถูกกำกับจากองค์กร Standards Australia ที่มีตัวชี้วัดตั้งแต่การผลิตสินค้า และ บริการ เพื่อรับประกันความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และประสิทธิภาพ
5. มาตรฐานสากลเยอรมัน (DIN)

DIN หรือ German Industrial Standard คือ มาตรฐานสากลจากเยอรมัน ที่มุ่งเน้นในเรื่องของวิศวกรรม เครื่องจักร เทคโนโลยี รวมไปถึงมาตรฐานของเหล็ก ที่มีการกำหนดคุณสมบัติทางกายภาพและเคมีของเหล็กกล้าชนิดต่าง ๆ ให้อยู่ในตัวชี้วัดการจำแนกประเภทของเหล็กที่วางเอาไว้ เช่น เหล็กกล้าคาร์บอน เหล็กกล้าผสมต่ำ เหล็กกล้าผสมสูง และเหล็กหล่อ เป็นต้น
ซึ่งมาตรฐาน DIN มีความสำคัญในการรับประกันคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ อีกทั้ง การที่สินค้ามีการถูกอ้างอิงด้วยสัญลักษณ์มาตรฐานสากล DIN ยังสามารถบ่งบอกให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ประเภทนั้น ๆ มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการใช้งานตามที่กำหนด
เช่น การผลิตม้วนเหล็กหรือเมทัลชีทที่ได้มาตรฐาน DIN จะมีความแข็งแรงทนทานและปลอดภัยต่อการใช้งาน รวมถึงยังเป็นที่นิยมในยุโรป และถูกนำไปใช้ในระดับสากล
6. มาตรฐานสากลยุโรป (EN)

มาตรฐานยุโรป หรือ (European Standard) คือมาตรฐานที่ได้รับการรับรองโดยองค์กรมาตรฐานยุโรป (European Standardization Organizations - ESOs) ซึ่งรวมไปถึงองค์กรอื่น ๆ เช่น
CEN (European Committee for Standardization)
CENELEC (European Committee for Electrotechnical Standardization)
และ ETSI (European Telecommunications Standards Institute)
ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความปลอดภัยในผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ โดยมีการกำหนดคุณสมบัติและข้อกำหนดเฉพาะสำหรับวัสดุและผลิตภัณฑ์ เพื่อทำการทดสอบให้สินค้าแต่ละประเภท จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานข้อตกลงที่องค์กรได้วางเอาไว้ เช่น คุณสมบัติทางเคมี หรือ ความแข็งแรงหรือความทนทานต่อการกัดกร่อน เป็นต้น ซึ่งข้อกำหนดเหล่านี้ จะช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับอาคาร จากการใช้งานวัสดุที่ไม่ได้มาตรฐานได้เป็นอย่างดี
มองหาวัสดุในการออกแบบบ้าน ให้แสงไทยเมทัลชีทดูแลคุณ
ที่นี่ เราจัดจำหน่ายม้วนเหล็ก และแผ่นเมทัลชีทคุณภาพสูง ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน เช่น งานมุงหลังคา งานฝ้าเพดาน และงานผนัง
มีเฉดสีมาตรฐาน สีพิเศษ รวมถึงลายไม้หลากหลายสไตล์ให้ได้เลือก
สินค้าทุกรุ่นของเรา เช่น เอ็มสตาร์, EM-PRO, EM-ONE และ EM-UNIQUE มีการผลิตอย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากล เช่น ASTM, JIS, AS, DIN, EN และรวมไปถึงมาตรฐาน มอก. ของไทย ที่มีการรับรองมาตรฐานสินค้า (Product Certificate) เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
เรามีการออกใบรับประกันสินค้าให้ เพื่อเพิ่มความสบายใจให้กับผู้ซื้อ
พร้อมบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงที่ โดยทีมงานมืออาชีพ
แสงไทยเมทัลชีท ผู้นำด้านหลังคาเหล็กของไทย ที่มีประสบการณ์การให้บริการแก่ลูกค้ามาอย่างยาวนาน เรามุ่งมั่นตั้งใจที่จะส่งมอบสินค้า และ บริการดี ๆ ให้กับพาร์ตเนอร์ทุกท่านด้วยผลงานการันตีมากมายที่กล้ารับประกันความคุ้มค่า และเราพร้อมอยู่คู่กับทุกความสำเร็จของลูกค้าทุกท่านด้วยความจริงใจ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสัญลักษณ์ “มาตรฐานสากล” ?
Q: สัญลักษณ์มาตรฐานสากล สามารถตรวจสอบได้หรือไม่?
A: โดยปกติแล้ว หลังคาเหล็กที่ได้มาตรฐานจะมีตราสัญลักษณ์หรือรหัสมาตรฐานพิมพ์ลงบนแผ่นหลังคาเหล็ก แต่หากไม่พบ สามารถขอเอกสารรับรองมาตรฐานจากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายได้
Q: หากหลังคาเหล็ก ไม่มีสัญลักษณ์มาตรฐานสากลรับรองเป็นอย่างไร?
A: อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพและความปลอดภัยของการใช้งานได้ เช่น วัสดุเกิดสนิมเร็ว มีการผุพัง และมีอายุการใช้งานที่สั้นลง
สรุป
การเลือกซื้อหลังคาเหล็กที่มีมาตรฐานสากลรับรอง จะช่วยให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่าวัสดุที่เลือกใช้นั้นมีคุณภาพสูง ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน และสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหาต่าง ๆ เช่น การเกิดสนิมก่อนเวลาอันควร การแตกหัก หรือการเสื่อมสภาพที่รวดเร็ว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของอาคารและผู้อยู่อาศัย
ดังนั้น การตรวจสอบมาตรฐานก่อนตัดสินใจซื้อ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพดี แต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและบำรุงรักษาในระยะยาวอีกด้วย
หากคุณอ่านคอนเทนต์ “เช็กเลย! มาตรฐานสากล ของอุตสาหกรรมหลังคาเหล็ก มีอะไรบ้าง เจอสัญลักษณ์นี้อุ่นใจได้เลย” แล้วรู้สึกชอบคอนเทนต์ของเราอย่าลืมกดติดตามคอนเทนต์ของเราดี ๆ ได้ที่
Facebook : Sangthai Metalsheet
สุดท้าย หากคุณกำลังมองหาเมทัลชีทเพื่อต่อเติมบ้าน หรือ พัฒนาโปรเจกต์ต่าง ๆ ด้วยแผ่นเมทัลชีท
LINE: @sangthaigroup
Call Center: 02-0249297
Website แสงไทยเมทัลชีท: https://www.sangthaimetalsheet.com
ดูสินค้าเมทัลชีท (Metalsheet) ทั้งหมด : https://www.sangthaimetalsheet.com/product
Comments